บทความที่ได้รับความนิยม

วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

อุปกรณ์ดี มีกำลังใจไปกว่าครึ่ง



1.อุปกรณ์ดี มีกำลังใจไปกว่าครึ่ง                   สำหรับอุปกรณ์วาดรูปนั้นใครว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะว่าจากประสพการณ์ตัวเองที่วาด ๆ มา ถ้าใช้ดินสอสีไม่โดนใจหรือรูปทรงไม่ถูกชะตา มันก็ทำให้เราวาดภาพมาได้แย่ โดยวิธีเลือกอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นมีเคล็ดลับดังนี้:-


1.1. ดินสอ ดินสอนั้นเป็นอุปกรณ์หลักสำหรับการวาดรูปในขั้นต้นเลย สำหรับวิธีเลือกดินสอมาใช้สักแท่งนั้นก็ไม่ยาก แต่ให้เรียงลำดับความสำคัญในการเลือกให้ดีโดยให้ลำดับความสำคัญตามนี้

              1.1.0. เลื่อกตามงานที่จะใช้ เช่นถ้าจะวาด Drawing เน้นแรเงา ก็ให้เลือกดินสอถ่านไปเลยเช่น EE แต่หากต้องการวาดรูปสำหรับเขียนแบบหรือวาดงานลายเส้น ก็สามารถใช้ดินสอทั่วไปได้เช่น 2B, HB
             
1.1.1. เลือกความน่ารัก, สีสรร, ความถูกโฉลก (ไม่ขัดศรัทธาถ้าเป็นลาย Barbie)
             
1.1.2. จากนั้นให้เลือกความถนัดมือจ๊ะ ให้เอาน้ำหนักที่เราใช้แล้วสบายมือที่สุด
             
1.1.3. ดูความเหมาะสมของสภาพร่างกายเรากับดินสอ (ข้อนีอธิบายให้ลึก ๆ หน่อยก็คือ บางคนเป็นคนเหงื่อออกที่มือเยอะ เวลาวาด ๆ ไปอาจจะลื่นมือ    ให้เลือกดินสอที่มีด้ามจับแบบพิเศษหรือหาซื้อด้ามจับมาใส่ก็ได้ตามแต่ศรัทธาจ๊ะ ปล.แนะนำว่าให้ทำความสะอาดด้ามจับบ่อย ๆ เวลาใช้งานด้วยนะ เพราะมันจะเลอะกระดาษ)


1.2. ใส้ดินสอ ให้เลือกใช้ใส้ดินสอที่มีคุณภาพหน่อย ถ้าเป็น
             
1.2.1. ดินสอกด ให้เลือกซื้อใส้ที่มีคุณภาพหน่อยอย่างเช่น stedler เป็นต้น
             
1.2.2. ดินสอเปลี่ยนใส้หรือดินสออพอลโล่ ส่วนมากปัญหาของดินสอเปลี่ยนใส้ก็คือใส้มันจะขรุขระบางทีวาด ๆ ไปมันเหมือนกับว่ามีก้อนกรวดมาขูดกระดาษ สำหรับวิธีเลือกให้เลือกดูหัวดินสอที่หัวไม่ดูระยิบระยับ ให้เลือกอันที่ใส้มันสีดำออกทื่อ ๆ โดยส่วนมากถ้าสีทื่อ ๆ ไม่เงาระยิบระยับมักจะไม่ค่อยมีปัญหา
             
1.2.3. ดินสอใส้ถ่าน หรือดินสอที่เราใช้กันทั่ว ๆ ไป ส่วนมากปัญหาที่พบกันบ่อย ๆ ก็คือใส้มันเปราะมาก ๆ ส่วนใหญ่ปัญหาจะเกิดมาจากร้านเครื่องเขียนที่เราซื้อมาเขาเก็บดินสอไว้ไม่ดี สำหรับวิธีเลือกซื้อก็ให้ซื้อแท่งที่ไม่ดูชื้น ๆ หรือดูที่ใส้มันมีรอยหัก/บิ่น อยู่ ให้ซื้อแท่งที่ ปลายแหลม ๆ เอาทิ่มนิ้วตัวเองแล้วไม่มีขลุยถ่านออกมาทันที ( คือกดแล้วหัวมันไม่เละนั่นเอง )



 1.3. ยางลบ สำหรับยางลบนี่ขอแบ่งเป็นระดับ ๆ สำหรบงานวาดจ๊ะ โดยทำความเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ถ้ายางลบที่มีเนื้อแข็งเวลาเราใช้ลบมันก็จะกินกระดาษมาก( ลบไม่กี่ทีกระดาษก็กระจุยแล้ว ) ตรงกันข้ามถ้าเราใช้ยางลบที่มีความนุ่ม มันก็จะกินกระดาษน้อย ( แต่จะใช้เวลาสะกิดงานเยอะหน่อย
              1.3.1. งาน drawing ให้ใช้ยางลบที่มีความแข็งระดับกลาง ( ยกตัวอย่างเช่น stedler ก้อนละ 5 บาท ) เพราะว่า เหตุเพราะว่ายางลบที่แข็งระดับกลางนี่สามารถพลิกแพลงมาใช้ในการ drawing ได้เช่น การตบเพื่อทำน้ำหนังฟุ้ง ๆ หรือ ใช้คัดเตอร์ปาดมุมเพื่อเอาชิ้นเล็ก ๆ มาสะกิดงานให้เป็นลวดลายต่าง ๆ หรือเก็บงานให้เนี้ยบ หรือทำเป็น highlight ต่าง ๆ ก็ได้
              1.3.2. งาน วาดลายเส้น เช่นวาดการ์ตูนหรือวาดแบบต่าง ๆ ก่อนจะตัดเส้นจริง ควรใช้ยางลบที่มีความนุ่ม หรือแข็งน้อย ๆ เนื่องจากงานวาดลายเส้นนั้นเวลาวาดผู้วาดต้องลงเส้นเบา ๆ จึงต้องใช้ยางลบประเภทที่กินกระดาษน้อย ๆ               
              1.3.3 งาน เส้นปากกา  ให้ใช้ ยางลบชนิดแข็งโป๊ก.. ( ไอ้ก้อนที่เราเห็นเขาทำเหลี่ยม ๆ แข็ง ๆ เอามาแอบปาหัวเพื่อนกันบ่อย ๆ นั่นแหละ ) เหมาะสำหรับงานที่ใช้เส้นปากกาหมึกแห้งต่าง ๆ ( มันก็คือปากกาลูกลื่นทั่ว ๆ ไปนะแหละ พวก lancer )


1.4. ไม่บรรทัด สำหรับการเลือกใช้ไม้บรรทัดนั้นก็มีความสำคัญมิใช่น้อย สำหรับวิธีเลือกให้เลือกไม่บรรทัดที่เป็นสีใส ๆ และมองทะลุด้านได้ และเมื่อเอาไม้บรรทัดทาบลงบนกระดาษด้านที่วาด ส่วนยื่นของไม้บรรทัดไม่ควรจะอยู่ติดกับปลายดินสอ ( ตามภาพซ้าย )
เนื่องจากเวลาวาดจะ
เนื่องจากเวลาวาดจะมีขุยถ่านดินสอติดไปกับไม้บรรทัดด้วยทำให้งานเลอะ ในกรณีที่ใช้ปากกาจำพวกหมึกซึมวาด หมึกจะติดที่ไม้บรรทัดตอนทาบ อาจะทำให้งานเสียได้  โดยการเลือกซื้อไม้บรรทัดที่ถูกต้องนั้นควรเป็นดั่งภาพขวา ( จะมีช่องระหว่างดินสอกับไม้บรรทัดอยู่ )   เวลาวาดจะช่วยให้งานสะอาดขึ้นเยอะเลย.


ปล.ถ้ามีไม้บรรทัดอยู่แล้วเวลาวาดก็ให้ กลับเอาด้านที่ยื่นออกมาพลิกไว้ด้านบนตามภาพ


1.5. กระดาษ กระดาษสำหรับวาดปัจจุบันก็มีหลายชนิดด้วยกัน โดยความหนาของกระดาษมีหน่วยเป็นแกรม ซึ่งความหนาที่เหมาะสำหรับผู้ที่ฝึกวาดรูปขั้นต้นก็คือ 80 แกรม เนื้อเรียบ (ถ้าบางกว่านี้เวลาลบกระดาษก็จะขาดง่าย หรือถ้าใช้ปากกาหมึกซึมวาด สีมันก็จะซึมเป็นวงใหญ่ ๆ ไม่ค่อยสวยเท่าที่ควร ) สามารถซื้อ กระดาษถ่ายเอกสารทั่วไปมาใช้งานได้เหมือนกัน เช่นยี่ห้อ AA หรือยี่ห้ออะไรก็ได้ที่ด้านหลังเขียนว่า 80 แกรม
(ยี่ห้อที่เราใช้ก็คืออันนี้ มีขายทั่วไป สามารถซื้อที่ 7-11 ได้เหมือนกัน)          โดยการเลือกใช้กระดาษก็ให้เลือกตามกายภาพตัวเองอีกนั่นแหละ คือถ้าเรามองสีขาว ๆ จ้าๆ (ออกฟ้าหน่อย) ได้นาน ๆ ไม่ปวดตาก็แนะนำ double AA แต่ถ้า ใช้แล้วรู้สึกว่าทรมาณสายตากับการมองลายเส้นที่วาดไปละก็แนะนำให้ใช้ยี่ห้ออื่น (สำคัญที่ว่าด้านหลังต้องระบุเป็น 80 แกรม หรือมากกว่านั้น.

           

            1.5.1 กระดาษสำหรับ งาน Drawing ราคาแผ่นนึงก็ไม่แพงมาก (ส่วนมากอาจารย์จะให้ฟรี) ราคาประมาณ 15 บาท (มั้ง ไม่ได้ซื้อนานแล้ว) เมื่อซื้อมาเราจะได้กระดาษแผ่นใหญ่ ๆ (ขนาด A2) เมื่อตัดครึ่งแล้วจะได้ A3  ซึ่งขนาดสำหรับงาน Drawning ที่เหมาะที่สุดก็คอ A3 เนื่องจากงานประเภท Drawing ต้องการลายละเอียดมาก  ๆ  ยิ่งถ้าต้องการความสมจริงเพื่อลงรายละเอียดเยอะ ๆ ก็ต้องใช้ แผ่นใหญ่ขึ้นไปอีกเช่น A2 แต่สำหรับผู้ที่เริ่มต้นวาดหรือฝึกวาด ขนาด A3 ก็เมื่อยมือแย่แล้ว
สีของกระดาษ สำหรับ Drawing มี 2 สีที่นิยมใช้ คือ
-
- สีน้ำตาลอ่อน เหมาะสำหรับมือใหม่หัดวาด และผู้ที่มีปัญหาทางสายตา เนื่องจากสีของกระดาษจะทำให้ปวดตาน้อยกว่าเวลาเพ่งดูที่งานเวลาวาด
- สีขาว  เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการลง Detial งานเยอะ ๆ  เล่นมีความช่ำชองในเรื่องการลงแสง-เงาแล้ว เนื่องจาก เวลาลงงานจำเป็นต้องลงให้เต็มพื้นที่ (ไม่เหมือนสีน้ำตาล ปาดนิดหน่อย ก็เป็นเงาชัดแล้ว) จากประสพการณ์ผู้ที่ไม่เก่งเรื่องแสงเงา เวลามาวาดกับกระดาษสีขาวจะวาดค่อนข้างเพี้ยนเรื่องรูปทรงและแสงเงา

          1.5.2 ขนาดกระดาษ  เราแบ่งขนาดได้คร่าว ๆ ดังนี้

โดยปรกติที่เราเอามาใช้กับการวาดรูปจะมี 3 ขนาดคือA2. คือขนาดที่เอา A1 มาพับครึ่ง สามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียน (เหมาะสำหรับงาน ดรอว์อิ้ง)
A3. คือขนาดที่เอา A2. มาพับครึ่ง (จะได้ขนาดพอดีกับกระดานวาดรูปที่ขายทั่วไป)
A4. คือขนาดยอดนิยม ที่เอามาใช้วาดได้สารพัด เช่นงานลายเส้น  หรือเอามาวาดการ์ตูน

1.6 กระดาษรองมือ             กระดาษรองมือก็คือกระดาษรองมือนั่นแหละ ประโยชน์หลัก ๆ ก็คือเอาไว้รองมือสำรองมือไม่ให้เหงื่อที่มือโดนกระดาษ ซึ่งจะทำให้งานเลอะได้
แค่นี้ก็เริ่มวาดรูปกันได้แล้ว.....



แค่นี้ก็เริ่มวาดรูปกันได้แล้ว.....


สำหรับรายการต่อไปนี้จะเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับลงหมึกการ์ตูนจ้า...
1.7.ปากกาหมึกซึม สำหรับตัดเส้น

Pigma Micron Pen
               การจะเลือกซื้อปากกาหมึกซึมดี ๆ สักแท่งนั้นสำคัญหลัก ๆ ที่เราต้องมองก่อนเลย คือความสามารถของมัน ว่าสามารถกันน้ำได้ไหม ถัดมาคือตอนซื้อต้องดูด้วยว่า ที่หัวปากกานั้น มันเบี้ยวหรืองอ หรือแตกปลายหรือไม่ ให้ลองเขียนดูด้วยว่าหมึกติดดีหรือเปล่า สำหรับยี่ห้อยอดนิยม ก็คือ pigma (ราคาประมาณ 40-45 บาท แล้วแต่ร้านจะขาย) ซึ่งมีหลายขนาดให้เลือกซื้อด้วยกัน โดยเราขอแบ่งการใช้งานของขนาดต่าง ๆ ไว้ดังนี้

              เบอร์                               หน้าที่                                                                 
               08         สำหรับตีเส้นกรอบ หรือ ใช้ถมเส้นหนา ๆ
                                           
               03          สำหรับวาดรูปเส้นผมเล็ก ๆ ฉาก bg    
                                    
               05         สำหรับวาดเส้นทั่วไป


1.8.หมึกสำหรับถมดำ               สำหรับการเลือกซื้อหมึกก็เช่นกันให้เราดูคุณสมบัติหลัก ๆ ของมันว่ามันกันน้ำ ( waterproof ) หรือไม่โดยยี่ห้อแนะนำก็คือ Camel หรือบอกร้านเครื่องเขียนว่า หมึก อินเดียนอิ้งค์ ก็ได้ (ราคาประมาณ 10 บาท) ราคาไม่ค่อยแพง


1.9. อุปกรณ์สำหรับลบเส้นหมึก                บางครั้งที่เราปาดเส้นเพลิน ๆ จนหมึกเลยขอบก็ต้องใช้ตัวช่วยกันหน่อย  ข้อนี้แนะนำ   Liquid Paper น้ำยาลบคำผิดด้วยความสามารถสูงส่งและง่ายต่อการลบส่วนเกินมากสุดเลยต้องยกให้
         
                สำหรับท่านที่มีสี poster สีขาวก็เอามาใช้แก้ขัดก่อนได้ คือเอาพู่กันจุ่มสีในขวดเลยไม่ต้องผสมอะไร จากนั้นก็ไปปาดทัดส่วนที่เกินออกมาได้ทันที แต่ข้อควรระวังคืออย่าโดนน้ำเท่านั้นเอง








CD:http://writer.dek-d.com/defonx/story/viewlongc.php?id=635502&chapter=1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น